สาเหตุของการเกิดสิว
สิวเป็นปัญหาของผิวหนังที่พบได้บ่อยกระทั่งกลายเป็นเรื่องปกติ โดยช่วงวัยที่มีโอกาสในการเกิดสิวได้มากอยู่ในช่วงวัยรุ่น แต่สิวนั้นยังสามารถเกิดขึ้นได้กับผู้ใหญ่เช่นกัน เนื่องมาจากสาเหตุการเกิดสิวนั้นมีหลายปัจจัย แต่โดยรวมแล้ว กระบวนการเกิดสิวนั้นเกิดมาจากการอุดตันของรูขุมขนเนื่องมาจาก ต่อมไขมันใต้ผิวหนังมีการผลิตไขมันมากเกินไป รวมเข้ากับเซลล์ผิวหนังที่ตายและสิ่งสกปรกทำให้เกิดการอุดตัน จนนำไปสู่การเกิดสิวและการอักเสบที่อาจจะตามมาได้
จากข้อมูลดังกล่าวเราสามารถสรุปได้ว่าสาเหตุของการเกิดสิวนั้นเป็นผลมาจากการผลิตไขมันจากต่อมไขมันที่มากเกินไป จนนำไปสู่การอุดตันและกลายเป็นสิวในที่สุด ซึ่งสาเหตุของต่อมไขมันมีการผลิตไขมันมากเกินไปนั้นมีสาเหตุมาจากภาวะการเจริญเติบโตของร่างกายเมื่อเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น ร่างกายมีการเจริญเติบโตในหลาย ๆ ด้าน โดยร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนชนิดหนึ่งที่เป็นสาเหตุให้ต่อมไขมันมีขนาดใหญ่มากขึ้นนั่นคือฮอร์โมน Androgen
เมื่อร่างกายเข้าสู่ช่วงสมดุลของฮอร์โมนแล้ว สาเหตุที่ทำให้เกิดสิวนั้นเป็นในเรื่องของพฤติกรรมการใช้ชีวิตของตัวเราเองโดยมีหลายปัจจัยต่าง ๆ เหล่านี้
1.การรับประทานอาหาร
อาหารบางชนิดนั้นส่งผลให้เกิดการทำงานของร่างกายที่ห่างไกลจากคำว่าสมดุล ซึ่งยังไม่มีหลักฐานทางงานวิจัยชี้แน่ชัดว่าอาหารเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดสิว เนื่องจากร่างกายของแต่ละคนนั้นมีการตอบสนองต่อสิ่งเร้าที่แตกต่างกัน โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ให้คำแนะนำว่า ให้สังเกตการเกิดสิวหลังจากมีการรับประทานอาหารชนิดใด ๆ และหากพบว่าอาหารมีความเกี่ยวข้องกับสิวให้หลีกเลี่ยงอาหารเหล่านั้น
แต่มีงานวิจัยหนึ่งที่พบว่าการบริโภคอาหารที่มีน้ำตาลหรือไขมันสูงบ่อยครั้งมีความสัมพันธ์กับอัตราการเกิดสิวที่สูงขึ้น 54% ในขณะที่เครื่องดื่มที่มีน้ำตาลเชื่อมโยงกับอัตราการเกิดสิวที่สูงขึ้น 18% ซึ่งโอกาสในการเกิดสิวที่เพิ่มขึ้นนั้นเกี่ยวกับระดับน้ำตาลในเลือดและอินซูลิน(1)
2.พฤติกรรมการใช้ชีวิต
พฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ไม่ดีต่อสุขภาพ เช่น การพักผ่อนไม่เพียงพอ การสูบบุหรี่ หรือการไม่ดูแลความสะอาดของร่างกายอาจทำให้เกิดสิวอักเสบได้ เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนและการเจริญเติบโตของจุลชีพบนผิวหน้า
นอกจากนี้ การใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมของน้ำมัน อาจทำให้รูขุมขนถูกอุดตันและส่งผลให้เกิดสิว ผู้ที่มีปัญหาสิวควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีน้ำมันและมีน้ำเป็นส่วนประกอบหลัก
สิ่งแวดล้อมที่มีฝุ่นละอองและมลพิษทางอากาศ รวมถึงการสวมหน้ากากอนามัย ก็สามารถทำให้เกิดสิวได้ เนื่องจากอนุภาคเหล่านี้สามารถอุดตันรูขุมขนและทำให้แบคทีเรียเจริญเติบโตได้มากขึ้น ดังนั้น การดูแลและทำความสะอาดผิวหน้าอย่างถูกต้องและสม่ำเสมอจึงมีความสำคัญ
การรักษาสิว
การรักษาสิวโดยทั่วไปนั้นขึ้นอยู่กับความรุนแรงของสิว โดยอาจใช้เวลาหลายเดือนในการรักษาสิวให้มีอาการดีขึ้น
หากมีสิวหัวดำ สิวหัวขาว หรือจุดเล็ก ๆ น้อย ๆ บนผิวหนัง อาการเหล่าเภสัชกรอาจมีการแนะนำให้คุณใช้เจลหรือครีมแต้มสิวที่มีสารเบนโซอิลเปอร์ออกไซด์ และยังมีวิธีอื่น ๆ ในการรักษาตามอาการและความรุนแรงของสิวโดยมีการรักษาหลายรูปแบบดังนี้
1.การรักษาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
การรักษาจากแพทย์ ควรพบแพทย์หากสิวของคุณอยู่ในระดับปานกลางหรือรุนแรง หรือยาที่ได้จากร้านขายยาไม่มีผล คุณอาจจำเป็นต้องใช้ยาตามใบสั่งของแพทย์
ยาตามใบสั่งของแพทย์ที่สามารถใช้ในการรักษาสิว ได้แก่ :
- เรตินอยด์ที่ใช้บนผิว
- ยาปฏิชีวนะที่ใช้บนผิว
- กรดอะเซลาอิก
- ยาปฏิชีวนะเม็ด
- ในผู้หญิง ยาคุมกำเนิดแบบผสม
หากสิวมีความรุนแรงมาก หรือใช้ยาตามที่แพทย์สั่งไม่ได้ผล แพทย์จะมีการพิจารณาส่งการรักษาไปยังแพทย์ผิวหนังซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญในการรักษาโรคผิวหนัง โดยอาการที่มีส่วนให้เกิดการพิจารณาคือ
- มีตุ่มแดงและตุ่มหนองจำนวนมากที่หน้าอกและหลัง รวมถึงใบหน้า
- มีตุ่มก้อนที่ก่อให้เกิดความเจ็บปวดอย่างมากเมื่อสัมผัส
- มีแผลเป็น หรือมีความเสี่ยงที่จะเกิดแผลเป็น
สำหรับความรุนแรงของสิวระดับเล็กน้อยถึงปานกลาง หรือปานกลางถึงรุนแรง การรักษามักเริ่มด้วยการใช้ยาที่ใช้บนผิวร่วมกับยาปฏิชีวนะแบบเม็ดเพื่อลดการติดเชื้อ
การรักษาหลายวิธีอาจใช้เวลา 2 ถึง 3 เดือนก่อนที่จะเริ่มเห็นผลของการรักษาอย่างชัดเจน สิ่งที่สำคัญคือความอดทนและการทำตามคำแนะนำในการรักษาจากแพทย์ แม้ว่าจะไม่ได้ผลทันทีก็ตาม
2.การรักษาโดยการทาเฉพาะที่
เบนโซอิลเปอร์ออกไซด์
เบนโซอิลเปอร์ออกไซด์ทำหน้าที่เป็นยาฆ่าเชื้อ ใช้ในการลดจำนวนแบคทีเรียบนผิวหน้านอกจากนี้ยังช่วยลดสิวหัวขาวและสิวหัวดำ และมีผลต้านการอักเสบอีกด้วย โดยระยะเวลาในการใช้ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของสิว โดยทั่วไปมักใช้เวลา 4-6 สัปดาห์
เบนโซอิลเปอร์ออกไซด์มักจะมีขายในรูปครีมหรือเจล มักใช้หนึ่งหรือสองครั้งต่อวัน โดยควรทาหลังจากล้างหน้าอย่างสะอาดเรียบร้อยแล้ว และควรใช้ในปริมาณที่เหมาะสม เพราะหากใช้มากเกินไปอาจทำให้ผิวเกิดการระคายเคือง
นอกจากนี้ยังทำให้ผิวหน้ามีความไวต่อแสง ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงการโดนแสงให้มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ โดยอาจมีการทาครีมกันแดดที่มีส่วนผสมในการปกป้องผิวจากรังสี UV
ผลข้างเคียงทั่วไปของเบนโซอิลเปอร์ออกไซด์ คืออาจมีอาการผิวแห้งและตึงในบริเวณที่ใช้ แสบ คัน หรือร้อน ผิวอาจมีสีแดงและมีการหลุดลอกของผิว ผลข้างเคียงมักอยู่ในระดับที่ไม่รุนแรง หากมีการใช้อยู่ในปริมาณที่เหมาะสมและไม่มีผลข้างเคียงในระยะยาวหากเมื่อเลิกใช้ยา
เรตินอยด์
เรตินอยด์เป็นยาที่ใช้ในการรักษาสิวบนผิวหน้า ทำงานโดยการขัดผิวหนัง เอาเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วออกจากผิวและป้องกันไม่ให้เกิดการสะสมในรูขุมขน
Tretinoin และ Adapalene เป็นตัวอย่างของเรตินอยด์เหล่านี้ ซึ่งมีในรูปแบบเจลหรือครีม การใช้งานโดยทั่วไปคือใช้ยานี้หนึ่งครั้งต่อวันสม่ำเสมอทุกวัน ควรทาก่อนนอน โดยให้ทาบนพื้นที่ที่มีสิวประมาณ 20 นาทีหลังจากนั้นให้ล้างหน้า
สิ่งสำคัญคือการใช้เรตินอยด์ทาบนผิวนั้นต้องมีความระมัดระวัง เพื่อหลีกเลี่ยงการระคายเคืองของผิว อีกทั้งยังต้องลดการสัมผัสกับแสงแดดและรังสี UV ที่สามารถทำให้ผิวได้รับความเสียหายจากแสงแดด สตรีมีครรภ์ควรงดการใช้เรตินอยด์ทาบนผิวเนื่องจากมีความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดภาวะการบกพร่องกับทารก
การระคายเคืองของผิวเป็นผลข้างเคียงที่พบได้ทั่วไปจากการรักษา โดยทั่วไปจะต้องใช้เวลาประมาณ 6 สัปดาห์ แต่แพทย์อาจแนะนำให้ใช้ยาต่อไปในปริมาณที่ลดลงหลังจากที่สิวหายไปแล้ว
นอกจากคุณสมบัติในการต่อสู้กับสิว เรตินอยด์ซึ่งเป็นส่วนประกอบของวิตามิน A ยังส่งเสริมการผลัดเซลล์ผิวหนังและการผลิตคอลลาเจน ซึ่งสามารถช่วยบำรุงผิวและทำให้ริ้วรอยดูจางลง
สิ่งสำคัญของการรักษาโดยใช้เรตินอยด์คือ จำเป็นต้องมีความอดทนในการรักษา เนื่องจากผลลัพธ์ไม่ได้แสดงออกมาให้เห็นชัดในทันที อาจต้องใช้เวลาในการรักษาหลายสัปดาห์หรือเดือนในการเห็นผลที่ชัดเจน ดังนั้นการมีวินัยในการใช้งาน ความอดทนเป็นสิ่งสำคัญของการรักษาโดยวิธีนี้
3.การรักษาโดยวิธีกายภาพ
การบีบสิว
การบีบสิวเป็นวิธีการที่แพทย์แนะนำให้เราทำเมื่อต้องการที่จะกำจัดสิวอุดตันอย่างรวดเร็วและลดโอกาสที่จะเกิดสิวอักเสบขึ้นมา แต่การบีบสิวด้วยตนเองไม่ควรทำเพราะอาจทำให้เกิดรอยดำ รอยแดง และหลุมสิวตามมาได้ ดังนั้นควรให้ผู้มีความชำนาญและเครื่องมือที่สะอาดและปลอดเชื้อทำการบีบสิวให้
การฉีดยาลงในสิว
การฉีดยาลงในสิวเป็นวิธีการรักษาสิวอักเสบ สิวหนอง และสิวหัวช้าง โดยการฉีดยาสเตียรอยด์ลงในสิว (Intralesional corticosteroid injections) การฉีดยาสิวเป็นวิธีที่สามารถเห็นผลได้เร็ว แต่อาจมีผลข้างเคียงเช่น รอยบุ๋ม การช้ำหลังฉีด การอักเสบของผิวหนัง และแผลเป็น ดังนั้นควรให้แพทย์ที่มีประสบการณ์สูงทำการฉีดสิว
วิธีการผลัดเซลล์ผิวด้วยสารเคมี (Chemical peeling)
การผลัดเซลล์ผิวด้วยสารเคมี (Chemical peeling) คือการใช้สารเคมีที่มีฤทธิ์เป็นกรด เช่น AHA BHA หรือ TCA ทาลงบนผิวหนัง เพื่อให้ผิวหนังชั้นนอกหลุดลอกออกและสร้างผิวชั้นบนใหม่ ทำให้ผิวหนังนุ่มขึ้น เรียบเนียนขึ้น และลดการอุดตันของสิว การผลัดเซลล์ผิวด้วยสารเคมีควรทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อลดโอกาสการเกิดผลข้างเคียงที่รุนแรงตามมา
สรุป
สิวเป็นปัญหาสุขภาพของผิวหนังที่พบได้ทั่วไป และมีสาเหตุมาจากหลายปัจจัย เช่น การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน การผลิตไขมันจากต่อมไขมันในปริมาณที่มากเกินไป การอุดตันของรูขุมขนและการติดเชื้อจากแบคทีเรีย ทำให้เกิดสิวอุดตัน สิวอักเสบ และสิวหนองได้
การรักษาสิวสามารถทำได้หลากหลายวิธี ตั้งแต่การบีบสิวโดยผู้มีความชำนาญ การฉีดยาลงสิว และการผลัดเซลล์ผิวด้วยสารเคมี ทั้งนี้ควรทำโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์สูง เพื่อป้องกันผลข้างเคียงและเพื่อให้ได้ผลการรักษาที่ดีที่สุด
ลองใช้บริการของเรา
ถ้าคุณกำลังมองหาการรักษาสิวที่มั่นใจโดยวิธีที่เหมาะสม ที่คลินิกของเรา Me’Lamoon Skin & Laser Clinic เรามีทีมแพทย์ที่มีประสบการณ์สูง พร้อมให้คำแนะนำและวางแผนการรักษาที่เหมาะสมกับคุณ เราใส่ใจในทุกขั้นตอนของการรักษา ตั้งแต่การวินิจฉัย การรักษา และการดูแลหลังการรักษา ที่คลินิกของเรา เรามุ่งมั่นที่จะให้คุณมีสุขภาพดีทางด้านผิวหนังและมั่นใจในตนเอง สามารถติดต่อ Me’Lamoon เพื่อนัดหมายและรับคำปรึกษาที่คลินิกของเรา
เพื่อความสะดวกสามารถปรึกษาหมอทาง Inbox Facebook หรือทาง Line ได้เลย
>> 🏩จุดสังเกตที่ตั้งเมลามูนคลินิก🏩
คลินิกตั้งอยู่ในเมืองทองธานี สามารถดู แผนที่ได้ที่นี่ Me’Lamoon Location
- อยู่ห่างจากมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช 1 กิโลเมตร
- ถัดจากธนาคารกรุงไทยสาขาเมืองทองธานี 3 ช่วงตึก
วันเวลาทำการ
เปิด 10.30-20.00 น. [หยุดทุกวันพุธ]
Line: @melamoonclinic